Monday 18 May 2020



ไรฝุ่น

มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dermatophagoides pteronyssinus Dermatophagoides fariae เป็นแมลงขนาดเล็ก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะมีความยาวเพียง 250 – 300 ไมครอน มี 8 ขา ไม่มีตา วางไข่คราวละ 20 – 50 ฟอง 3 สัปดาห์/ครั้ง ระยะฟักตัว 8 – 12 วัน แต่ละตัวมีอายุ 2 – 4 เดือน สามารถปะปนอยู่กับฝุ่นตามพื้นบ้าน ห้องนอน ที่นอน หมอน พรม และเครื่องเรือนต่างๆ โดยชอบอาศัยในที่อับชื้น และอบอุ่น ไรฝุ่นกินเศษผิวหนังและรังแคเป็นอาหาร จากนั้นจะถ่ายมูลไว้ในสถานที่ที่อาศัยอยู่ โดยเฉพาะบนเตียง หรือที่นอน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของตัวไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น

- ในฝุ่นบ้าน 1 กรัม สามารถพบไรฝุ่นได้ถึง 500 ตัว
- น้ำหนัก 1 ใน 10 ของหมอนเก่าอายุ 6 ปี มาจากไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น
- ในที่นอน 1 หลัง มีไรฝุ่นอาศัยอยู่ประมาณ 2 ล้านตัว
- มูลของไรฝุ่นสามารถฟุ้งกระจายได้ง่ายและลอยเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเราในขณะนอนหลับ

กำจัดไรฝุ่นอย่างไร ?
ไรฝุ่นสามารถแพร่พันธุ์ในที่อับชื้น การกำจัดไรฝุ่นคือทำความสะอาดพื้นห้อง เตียง หมอน ผ้าปูที่นอน เครื่องเรือน พรม ให้มีฝุ่นน้อยที่สุด โดยผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ควรนำไปซักด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที
ไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ดีในพรมที่มีขนพรมหนา รวมทั้งที่นอนและหมอน เนื่องจากมีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ในที่นอน คือ เศษหนังกำพร้าของคน โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจคือ เศษหนังกำพร้าของคน 1 กรัม เป็นอาหารให้ไรฝุ่นหนึ่งล้านตัวมีชีวิตได้นาน 1 สัปดาห์ ตามปกติคนเราจะมีผิวหนังหลุดลอกออกมาถึง 1.5 กรัมต่อวัน ดังนั้น การตัดทอนอาหารของไรฝุ่นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยวิธีที่ดีที่สุดคือ การหุ้มที่นอนและหมอนด้วยพลาสติก ไวนิลหรือผ้าคลุมที่ป้องกันไรฝุ่น ซึ่งผ้าคุณสมบัติพิเศษ คือ ผ้าที่ทอด้วยเส้นด้ายละเอียดและสานกันแน่นมากจนไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่นไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไป ทำให้ตัวไรฝุ่นขาดอาหารและลดจำนวนลง


-------------------------------------------------------------

No comments: